วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

2 เดือนสุดท้าย สู่ Seattle Marathon !!!

2 เดือน ก่อน Seattle Marathon: ซ้อมวิ่งกลางสายฝน

ขณะที่ เป็นเดือนตุลาคม ผมเพิ่งกลับมากจากรัฐ Illinois เนื่องจากมหาวิทยาลัยที่ผมกำลังเรียนอยู่เปิดเทอม สิ่งแรกที่ต้อนรับเมื่อผมกลับมาถึงเมืองเลยก็คือ "ฝน" เท่านั้นไม่พอ ฝน ยังตกต่อเนื่องในอีกอาทิตย์ต่อมา ในฐานะที่ผมชื่นชอบการวิ่งอย่างมากถึงมากที่สุด ไม่ว่าฝนจะตกแต่ไหนอย่างไร ผมก็ต้องไปวิ่ง

ผมมีเส้นทางที่วิ่งประจำอยู่ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางเรียบทะเลสาบ เส้นทางนี้ทางรัฐบาลเมือง ได้สร้างไว้เพื่อเป็นทางจักรยานและทางวิ่งเท่านั้น ปกติผมจะวิ่งเวลาประมาณ 18.00 น โดยจะวิ่งประมาณ 15-20 กิโลเมตร

แน่นอนครับ บ่อยครั้งที่วิ่ง ฝน จะตก หนักบ้างเบาบ้าง แต่ก็เรียกว่าตก แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฝนจะตก หรือลมจะแรงแค่ไหน ก็ยังจะเห็นคนออกมาวิ่งเป็นจำนวนมาก ทำให้การวิ่งไม่น่าเบื่อ ตรงกันข้าม ผมมีแรกกระตุ้นให้วิ่งประจำอีกด้วย

ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทางวิ่งเส้นนี้เต็มไปด้วยต้น Maple และต้นไม้ผลัดใบอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ในช่วงฤดูใยไม้ร่วงนี้ เราจะเห็นแต่ต้นไม้สีแดงตลอดเส้นทางครับ ผมว่าสวยมาก และน่าสนใจมากกว่า สถานที่ท่องเที่ยว อาทิ Star bug สาขาแรก หรือ ตลาด Pike Market อีก ดังนั้น หากเพื่อนมาเมืองนี้ ต้องมาวิ่งที่เส้นทางนี้นะครับ

บางครั้ง ผมก็เปลี่ยนเส้นทางวิ่งบ้าง โดยวิ่งจาก University of Washington ไปยัง Downtown เส้นทางนี้ก็สวยนะครับ แต่เป็นอารมณ์วิ่งผ่านชุมชน

Source: http://static1.1.sqspcdn.com/static/f/1332302/24208286/1389730391283/seattle-rain.jpg?token=rtE6w0jvErok10QweEWeh2E3psg%3D
1 เดือน ก่อน Seattle Marathon: ซ้อมน้อย บาดเจ็บ!!

วันนี้ คือวันก่อนวิ่ง 10 วัน อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมแทบไม่ได้ซ้อมเลย เรียนหนักมาก นอกจากเรียนยังทำงาน Part time ไปด้วย ทำให้เวลาซ้อมน้อยมากๆ อย่างไรก็ตาม ผมพยายามที่จะวิ่งให้ได้อาทิตย์ละอย่างน้อย 2 วัน โดยเป็นวิ่งระยะไกล 1 วัน

หนาวไม่ไหวแล้ว เลยต้องวิ่งในยิม: สิ่งหนึ่งที่ ทำให้ผมวิ่งได้น้อยก็คืออากาศที่เริ่มจะหนาว เพราะอากาศหนาวทำให้วิ่ง ข้างนอกไม่ได้ต้องวิ่งเฉพาะในยิมเท่านั้น ดังนั้น เมื่อเลิกเรียน ผมจึงต้องกลับบ้านก่อนเพื่อมาเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกไป ทำให้เสียเวลามากๆ นอกจากนี้ เมื่อกลับบ้าน บ้านมันอุ่นกว่าข้างนอกเยอะ เอาจริงๆ มันสบายกว่า บางครั้งก็เลย ขี้เกียจ

เข่า เริ่มีปัญหาเล็กน้อย: ผมรู้สึกเริ่มปวดเข่า หลังจากเสร็จการวิ่งระยะไกล 2 อาทิตย์ก่อนการแข่งข้น มันไม่ได้เจ็บมาก แต่ทำให้รู้สึกลำคาญบ้าง อารมณ์กวนใจเวลาวิ่งมากกว่า

โดยรวม เดือนสุดท้ายก่อนวิ่ง มันช่างเป็นเดือนที่เต็มไปด้วยอุปสรรค์จริง

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

3 เหตผล ที่วิ่งลู่ก็มันดีนะ!!!

เมื่อก่อน ผมคิดว่าการวิ่งบนลู่วิ่งตามฟิตเนส มันคงจะน่าเบื่อ ดังนั้น ผมจึงพยายามหลีกเลี่ยงการวิ่งบนลู่วิ่งมาตลอด แต่เนื่องจากเมืองที่ผมมาเรียนต่ออากาศค้อนข้างหนาว โดยเฉพาะในฤดูหนาว ทั้งหนาว ทั้งฝนตก ยิ่งไปกว่านั้นเวลามืดเร็วอีกต่างหาก กว่าผมจะเรียนเสร็จ ทำงานพิเศษต่อเสร็จก็มืดพอดี ในที่สุด ผมก็คิดว่า เอาว่ะ วิ่งบนลู่ดีกว่าไม่ได้วิ่งเลย และผมก็ค้นพบว่าแม้มันจะสู้การวิ่งรอบเมืองแบบที่ผมชอบไม่ได้ แต่ "มันก็โอเค"
Source: http://www.hoteliermiddleeast.com/pictures/HME/gym-3-web.jpg

วิ่งเมื่อไหน่ก็ได้ ถ้ายิมไม่ปิด
ผมเป็นคนหนึ่งที่ทำงานหลายงาน ทั้งงานประจำ งานเสริม และก็วิ่งเป็นงานอดิเรก กว่างานจะเสร็จ ก็ 2-3 ทุ่ม แล้ว การจะออกไปวิ่งตามถนน ก็ค่อนข้างจะอันตราย ทั้งรถ ทั้งโจร ทั้งอากาศหนาว บางครั้งมันทำให้ความอยากวิ่งหายไป ผมจึงเปลี่ยนมาวิ่งในโรงยิมแทน กว่าโรงยิมจะปิด ปกติก็ค่อนข้างดึก มีเวลา 3-4 ชั่วโมง ให้วิ่ง

ความเร็วที่คงที่
การวิ่งบนลู่ เราสามารถควบคุมความเร็วได้ตามที่ต้องการ ในขณะที่การวิ่งบนถนน บางครั้งเราก็ขี้เกียจ ช้าบ้างเร็วบ้าง ทำให้ Peace การวิ่งไม่สม่ำเสมอ

เอา Tablet มาดูละครไปด้วย
อันนี้เป็นความสนุกส่วนตัว ช่วงที่ผ่านมา ผมติดละครเกาหลี กับการ์ตูนชินจัง ถ้าไม่ได้ดูมันกระวนกระวาย 555+ หรือเพื่อนๆ ที่ต้องติดตามข่าวสาร ฟังติวเตรียมสอบ หรืออ่านหนังสือ ก็ทำได้ครับ อิอิ เป็นการใช้เวลาได้คุ้มค่าทีเดียว

โดยรวม ผมชอบวิ่งบนถนนจริงๆ มากกว่า แต่วิ่งในยืม ก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด

ใครว่าอุปกรณ์การวิ่งไม่สำคัญ

ตอนที่เขียนบทความนี้ ผมพึ่งกลับมาจากไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาพอดี เนื่องจากคู่เก่า (Nike Flex 2014) ใช้วิ่งมามากกว่า 700 กิโลเมตร ถ้ารวมใส่เดินอีก ก็คงเกือบๆ 1,000 กิโลเมตร มันก็คงต้องเปลี่ยนบ้างเพื่อความปลอดภัยของเท้าและหัวเข่า
(2015 Seattle) ประเดิม รองเท้าคู่ใหม่ Brooks Transcend
รองเท้าวิ่งก็เหมือนกระบี่ ครับ หากนักรบกระบี่ที่ดี เขาก็มีโอกาสที่จะชนะมากขึ้น นักวิ่งอย่างเราๆ ก็เช่นกัน หากมีอุปกรณ์ที่ดี โอกาสที่จะเอาชนะเป้าหมายของตัวเองก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน แต่ถ้าถามว่า สำหรับผู้ที่เริ่มวิ่งใหม่ๆ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ทุกๆ อย่าง อย่างดี ครบตั้งแต่ครั้งแรกหรือไม่ อาจจะไม่จำเป็น ก็แน่ละครับ อุปกรณ์ดีๆ ราคาไม่ใช่ถูกๆ กว่าจะซื้อครบผมว่าใช้เงินเกินหมื่น มันจะทำให้ความตั้งใจวิ่งหมดลงก่อน

ผมจะรองเรียงลำดับว่าอุปกรณ์ใดควรซื้ออย่างดีก่อนหรือหลัง และควรชื้อในช่วงไหน อันนี้เป็นความเห็นของผมคนเดียวนะครับ (ขอย้ำไว้ก่อน) ไม่มีการวิจัย หรือข้อมูลทางการแพทย์รับรอง อันนี้มาจากประสบการณ์ของผมล้วนๆ หากผิดพลาดหรือเพื่อนๆ นักวิ่งมีข้อมูลที่ดีกว่า ผมดีใจอย่างมากถ้าเพื่อนๆ จะแชร์ให้ผมฟังนะครับ ^^

ลำดับหนึ่ง "รองเท้า"
ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน รองเท้าวิ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับการวิ่ง ถ้าเท้า ขา และหัวเข่า มีปัญหา ยังไงก็วิ่งไม่สำเร็จ ดังนั้น หากเพื่อนๆ จะวิ่งไม่ว่า 3, 5, 10, 20 หรือ 40 กิโลเมตร ลงทุนเถอะครับ สุขภาพสำคัญกว่าเงิน

ลำดับที่สอง "เสื้อ" 
สำหรับนักวิ่งผู้หญิงคงไม่มีปัญหา แต่สำหรับนักวิ่งชาย ลักษณะของผ้ามีผลอย่างมาก ไม่เพียงแค่เรื่องของเหงื่อ แต่ยังมีผลต่อการเสียดสีของร่างกายอีกด้วย 
ผมเองเคยชื้อเสื้อคล้ายๆ เสื้อตาห่านมาใส่วิ่ง (ผมซื้อยี่ห้อ Nutrica) เสื้อที่ว่านี้ เป็นเสื้อใส่ซับข้างใน เวลาใส่เสื้อทำงาน แต่ผมซื้อมาใส่วิ่ง ซึ่งก็ผิดประเภท ตอนที่วิ่ง ระยะ 3-5 กิโลเมตร ผมไม่ได้รู้สึกแตกต่าง ระหว่างเสื้อดังกล่าวกับ เสื้อกีฬา จนถึงระยะ Half Marathon ผมสังเกตว่ามีเลือดออกที่หัวนม เห้ย ผมตกใจมากตอนแรก กลัวเป็นมะเร็งเต้านม 555+ จากนั้นก็ไปหาข้มูลใน Google ดู ซึ่งก็พบว่า เกิดจากเสื้อผ้าที่ใส่ไปเสียดสีกับหัวนม ดังนั้น หากวิ่งมาถึงในระดับหนึ่ง เสื้อต้องเป็นผ้ากีฬา เท่านั้นครับ

ลำดับที่สาม "โทรศัทพ์ หรือ GPS"
เวลาวิ่ง ในปัจจุบัน เรามักจะบันทึกการวิ่งด้วย GPS จากโทรศัทพ์  และเช่นกัน GPS ใน โทรศัทพ์ เป็นอีกปัญหาที่อาจจะทำให้หงุดหงิด เพราะมันทำให้แบตของโทรศัทพ์หมดเร็วเหลือเกิน ผมเองใช้โทรศัทพ์ที่ไม่ใช่รุ่นท้อป เวลาซ้อมวิ่งระยะ Marathon ทีไร แบตหมดก่อนทุกที 

สำหรับกางเกง ผมใส่กางเกงบอล จากที่วิ่งมา ผมยังไม่เจอปัญหาครับ เลยยังขอไม่พูดถึง ^^