“ที่ไหน เมื่อไหร่” ก็ได้
ก่อนอื่นเลย เราต้องยอมรับครับว่า “ยากมากๆ” ที่ “พนักงานออฟฟิศ” อย่างเราๆ จะเอาดีทางด้านกีฬา พี่ๆ เพื่อนๆ ของผมหลายคนเคยเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย จนกระทั้งเมื่อได้งานประจำทำก็ต้องเลิกเล่นกีฬาเหล่านั้น สาเหตุหลักก็เพราะต้องทุ่มเทให้กับงาน ครับเห็นชัดๆ เลยก็คือจะนัดเพื่อนๆ เพื่อเล่นกีฬาก็ไม่ได้เพราะเวลาไม่ตรงกัน
สำหรับกีฬาวิ่งสามารถทำได้ เพราะเราสามารถซ้อมเมื่อไหร่ และสถานที่ใดก็ได้ พูดแค่นี้อาจฟังดูเกินจริงครับ แต่พนักงานออฟฟิศชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ชื่อ ยูกิ คาวาอูชิ เขาสามารถวิ่งจนประสบความสำเร็จ โดยเวลาที่ดีที่สุดของเขาคือประมาณ 2 ชั่วโมง 8 นาที ในการวิ่งระยะมาราทอน ทั้งๆ ที่เขาต้องทำงานประจำไปด้วย
ศัตรูสิ่งเดียว คือ “หัวใจ”
โดยพื้นฐานของมนุษย์ เราทั้งเกลียดและกลัวความพ่ายแพ้ หากรู้ว่าต้องแพ้ เรามักหลีกเลี่ยงกิจกรรมนั้น กีฬาก็เช่นกัน พนักงานออฟฟิศ พูดตรงๆ ครับเล่นกีฬาอะไรก็ชนะอยาก เพราะทั้งวันเราต้องทำแต่งาน ถ้าเป็นเรื่องงาน “เราชนะแน่ๆ” ดังนั้นเมื่อถูกชวนไปเล่นกีฬา หลายๆ ครั้ง เรามักปฎิเสธ
แต่สำหรับการวิ่ง นักวิ่งไม่ต้องกังวลว่าจะแพ้ ไม่ต้องกังวลคู่แข่ง ไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะมองว่าเราเป็นมือใหม่ หรืออ่อนสนามเพียงใด เป้าหมายของการวิ่งคือเส้นชัย การเข้าเส้นชัยได้ก็เปรียบเสมือนการเอาชนะหัวใจตัวเองได้ เมื่อเข้าเส้นชัยได้ เราก็คือสามารถเป็นผู้ชนะ ที่เอาชนะใจตัวเอง นั้นเอง
มีแต่คำว่า “เพื่อน” เท่านั้น
ผมเคยเรียนกีฬาต่อสู้มา สิ่งแรกที่โค้ชสอนผมก็คือ เมื่อยู่ในสนามทุกๆ คนคือศัตรู ห้ามเห็นใจคู่ต่อสู้โดยเด็ดขาด แต่คำสอนนี้ตรงกันข้ามกับการวิ่งโดยสิ้นเชิงครับ
ผมเข้าร่วมการวิ่งหลายรายการ มิตรภาพสามารถพบเห็นได้ตลอด หลายต่อหลายครั้ง เมื่อมีนักวิ่งประสบอุบัติเหตุก็จะมีนักวิ่งคนอื่นๆ เข้าไปช่วยเหลือเสมอ นอกจากนี้ ตลอดระยะทางการวิ่ง เรามักจะได้รับกำลังใจจากนักวิ่งคนอื่นๆ เสมอ เช่น นักวิ่งที่วิ่งผ่านจุดกลับตัวมาแล้วตะโกนให้กำลังใจ นักวิ่งคนอื่นๆ ที่วิ่งตามมา บ้างก็เข้ามาแปะมือให้กำลังใจอีกด้วย
วิ่ง กับ “ครอบครัว”
ในภาวะที่ต้องทำงานตลอด 8-10 ชั่วโมง ในตอนกลางวัน ไหนจะต้องทำงานพิเศษอีกในช่วงการคืน การหากิจกรรมทำกับครอบครัว ที่ทั้งแฟน พ่อ แม่ สามารถทำร่วมกันได้ และเป็นประโยชน์ คงไม่มีอะไรดีไปกว่า การพาไปออกกำลังโดยการวิ่งอีกแล้ว นอกจากจะเป็นการใช้เวลาร่วมกัน ทุกคนยังจะมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย
ใครๆ เขาก็ "วิ่ง"
ในประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวนนักวิ่งที่เข้าร่วมงานต่างๆ มีจำนวนมากขึ้นแบบก้าวกระโดด ข้อมูลจากเวปไซต์ runningusa รายงานว่า ใรปี 2013 มีจำนวนคนที่เข้าร่วมงานวิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้นกว่าปี 2012 กว่า 10% ในขณะที่การวิ่งที่ประเทศไทย อาทิ Bangkok Marathon มีจำนวนผู้ร่วมงานกว่า 30,000 คน จำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี นอกจากนี้ถ้าหากเพื่อนๆ ชาวออฟฟิศลองออกไปเดินตามสวนสาธารณะ ก็จะพบว่า ทุกๆ คนออกมาวิ่งกันครับ ไม่แน่ว่า เพื่อนๆ ในออฟฟิศคุณก็ออกกำลังกายกันอยู่ เพียงแต่คุณไม่รู้ ก็ได้
(Photo: https://stocksnap.io/photo/X2Q7LBUF6U)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น