เนื่องจากเข้าปีใหม่ ก็ย่อมต้องมีการตั้งเป้ามหาย การวิ่งของตัวเอง ซึ่ง ผมเคยได้นำเสนอวิธีการตั้งเป้ามหายที่ดีไปแล้ว โดยใช้วิธีการ S.M.A.R.T ถ้าขาดการตั้งเป้าหมายการวิ่งที่ดี ก็เหมือน เราก็เหมือนวิ่งไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่า เราจะซ้อมหนักแค่ไหน ไม่รู็จะเอามาตรฐานอะไรมาอ้างอิง แล้วเราก็ถามคนอื่นๆ ไปทั่วว่าที่เราทำดีพอหรือยัง ซึ่งจะไม่มีใครตอบเราได้
ถ้าขาดการวางเป้าหมายที่แน่ชัด
Boston Marathon รัฐ Massachusetts ประเทศ สหรัฐอเมริกา นั่นเอง
(2015 Boston) Boston อยู่ตรงไหนน |
(2016 Boston marathon) เป้าหมายที่ต้องทำให้ได้ ในปี 2016
Source: http://www.baa.org/
|
นอกจากนี้ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าร่วมการวิ่งงานนี้ นะครับ นักวิ่งต้องเคยผ่านงงานวิ่งตามที่ Association of International Marathon and Road Race หรือ AIMs รับรอง และ International Association of Athletics Federations หรือ IAAF รับรองระยะทางการวิ่ง และการเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ซึ่งในไทยก็มีแค่ไม่กี่งานนะ เช่น Standard Charter Bangkok marathon, Khon Kaen international marathon และ Laguna Phuket International Marathon (ถ้าจำไม่ผิดมีแค่นี้นะ)
และที่สำคัญต้องทำเวลาได้ตามที่กำหนด!!!
อันนี้แหละครับ เป็นที่มาของเป้าหมายปี 2016 ของผม
ว่าด้วยเวลา
ผมเพื่อนๆ ที่เริ่มวิ่งถามผมว่า วิ่งเร็วเท่าไหร่ ถึงจะดี อันนี้ตอบยากมากๆ ผมก็ไม่รู้ แต่ถ้าถามว่า จะวิ่งเร็วเท่าใด ถึงจะไปโม้กับเพื่อนๆ ได้ว่า เราเป็นนักวิ่งเต็มตัว และสามารถเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราทอนได้ (เกื่อบ) ทุกๆ งานบนโลก (ไม่รวม โอลิมปิก เน้ออออันนี้ไม่รู้จริงๆ และคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมหรอก ฮ่าาาา)
ก็ควรจะใช้ เวลาของ Boston Marathon เป็นเกณฑ์
แล้วเวลาเท่าไหร่ละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
4 ชัวโมง? ไม่ใช่ครับ เห้ย มันต้องดุ โหด และ ทารุณ กว่านั้นสิ งั้นจะเป็นงานที่นักวิ่งเกือบทั้งโลกฝั่นฝันอยากจะไปกันเหรอ อย่างแรก ต้องถามก่อน อายุเท่าไหร่? (น้ำหนักไม่ต้องนะ)
Time Qualifier 2014 Boston marathon |
ผมเป็นผู้ชาย อายุประมาณ ยี่สิบปลายๆ อยู่ในกลุ่มแรกที่จำเป็นต้องวิ่งให้เร็วกว่ากลุ่มอื่นๆ ก็คือ
3 ชั่วโมง 5 นาที ครับ
แล้วมาราทอนแรกของผมละ 5 ชั่วโมง 15 นาที
แสดงว่า ถ้าจะเข้าร่วมการแข่งขันได้ โดยใช้เวลา ดังกล่าว ผมต้องเป็น ผู้หญิงที่มีอายุ มากกว่า 75 ปี
โอ้วววว...สึส โหดจริงๆ
ดังนั้ง...
เป้าหมายของปี 2016 คือ เข้า เส้นชัยให้ได้ ภายใน 3 ชั่วโมง 5 นาที เพื่อทำ Boston Qualifier ไปวิ่ง Boston Marathon ให้ได้ในอีก 3-4 ปีครับ (ขึ้นกับว่าเงินพร้อมแค่ไหน อิอิ ผมยังไม่เครียดว่าจะได้กลับมาวิ่งเร็วหรือช้า เนื่องจากจะมาที่ USA อีกครั้งต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูง)
ใครที่มีฝันเดียวกับผม และจะมาร่วมทำฝันกับผมบ้างครับ
มีเพื่อนวิ่ง เพื่อนแข่ง มันสนุกกว่า!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น