วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559

Running event: Cup cake fun run, Arlington wa

Summary Note
Running event: Cup cake Fun Run 2016
Website: http://www.cupcakeruns.com/
Date: March 20, 2014
Distant: 26.2 Miles
Package: Medal
Cost: $25 + application fee
City: Seattle, WA, USA
Highlight: Cup cake, great views and cheap
Rating: 2/ 5 stars
---
มีคำถามหนึ่งที่ผมมักจะถามตัวเองเสมอเมื่อต้องสมัครวิ่ง ก็คือ ทำไมต้องเสียเงินมาวิ่งทั้งๆ ที่ถนน หรือสวนสาธารณะก็วิ่งได้ สำหรับการเข้าร่วมงาน Cup cake Fun Run ผมเสียสมัครโดยให้เหตุผลกับตัวเองว่า ข้อที่หนึ่ง ผมอยากทดสอบตัวเอง เพราะวิ่งคนเดียว พอเหนื่อยก็มักจะขี้เกียจฝืนวิ่งต่อ (เปลี่ยนมาเดิน) และข้อที่สองผมชอบยรรยากาศงานวิ่ง ที่มีคนเยอะๆ มาวิ่งด้วยกัน คือวิ่งแล้วมันไม่เหงาอ่ะนะ
(Arlington WA, Cup Cake Fun run) น่ากินอยู่นะ!!
ว่าด้วยงาน Cup cake Fun Run สักเล็กน้อย งานนี้จัดมาตั้งแต่ปี 2010 เพื่อฉลองวันเกิดให้กับคุณป้าที่ชื่อว่า Tori แกไม่ได้มีความสำคัญมากหรอกครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า คือแกอยากจัด ในปีแรก มีคนมาร่วมวิ่งกับแก 15 คน ต่อมางานก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ วัตถุประสงค์ของงานก็เปลี่ยนไปเป็นการหาเงินไปบริจาคบ้าง โดยในปีนี้ป้าแกจะนำเงินไปซื้อ Lift Van ให้กับน้องคนหนึ่งที่ชื่อ Abby ครับ
(Arlington WA) ขนมแจกเด็กๆ ก็มีนะครับ
งานวิ่งงานนี้ เอาตรงๆ ผมไม่แทบตั้งความหวังว่าต้องประทับใจ หรืออะไรไว้เลย เนื่องจากค่าสมัครค่อนข้างถูกมาก แค่ $25 หรือ ประมาณ 1,300 บาท คือเทียบกับไทยอาจจะดูแพง แต่เมื่อเทียบกับงานวิ่งงานอื่นๆ ในอเมริกา เช่น LA marathon ก็ปาเข้าไป $200 ดังนั้น งานนี้ก็เหมือนกับมาวิ่งฟรีๆ นั่นแหละ นอกจากค่าสมัครที่เหมือนมาวิ่งฟรี สถานที่จัดงานก็ค่อยข้างเป็นชนบทมากๆ เริ่มต้นจากเมือง Seattle (ขนาดเมืองก็ประมาณหัวหิน) ผมนั่งรถเมขึ้นเหนือมา 2 ชั่วโมงกว่า ผ่านทุ่งนา สวนสตอเบอรี่ (มั้ง) และเจอตัวอาปาก้า สัตว์พื้นเมืองของประเทศเปรู ผมถึงกับอุทาย เห้ย นี่มันประเทศอเมริกานะ
(Arlington WA) ลงรถเมล์แล้วต้องเดินต่อไปอีก 20 นาที
เนื่องจากเมืองค่อนข้างชนบทมากๆ รถเมล์จาก Seattle มีมาถึง (บ้าง) ก็จริง แต่นานๆ มันจะมาสักคัน ยิ่งโดยเฉพาะวันอาทิตย์ รถเมล์แต่ละคันห่างกันคร่าวๆ ก็ประมาณ 1 ชั่วโมง และรถเมล์รอบที่เช้าที่สุดมาถึงตอน 9 โมง นอกจากนี้พอลงรถเมล์แล้วยังต้องเดินต่ออีก 20 นาที ด้วยเหตุนี้ ผมจึงต้องเริ่มวิ่งช้ากว่าคนอื่นๆ 1 ชั่วโมง มันก็เลยทำให้การวิ่งของผมกร่อยไปบ้าง  (แต่ผม E-mail แจ้งเขาล่วงหน้าแล้วนะ ^^)

ข้อดีของการวิ่งงานนี้ก็คือเจ้าหน้าที่ สตาฟ ที่จุดเริ่มต้น ค่อนข้าง Friendly มากๆ ครับ เห็นผมมาช้าก็เข้ามาดูแล ไม่พอ จำชื่อภาษาไทยของผมได้ด้วย ซื่งมันค่อนข้างจำยากนะ ถือได้ว่าเป็น First impression เลยแหละครับ พี่ๆ เขายังบอกผมด้วยว่าขากลับไม่ต้องเดินไปป้ายรถเมล์ เดี่่ยวขับรถไปส่ง นอกจากนี้ อาหารการกิน ณ จุดเริ่มต้นก็ถือว่าไม่แย่ครับ มีขนมพัชเสิล แห้งๆ ขนมปัง กับน้ำเปล่าแจก (คือมันก็โอเคร สมกับราคามากๆ)
(Arlington WA) (ถ่ายตอนกลับนะครับ) นี่คือจุดปล่อยตัว และเส้นชัย มีแค่นี้แหละครับ
จากนั้นผมก็เริ่มวิ่งครับ วิวสวยมากๆ ลองจินตนาการภาพออกเป็น 3 ระยะ ระยะไกลๆ คิดถึงภาพภูเขาสูงมากๆ ที่มีหิมะตรงยอด (เทืองเขา Rocky) มันสูงมากจริงๆ นะ เพราะตอนที่วิ่งอุณหภูมิ ประมาณ 15 องศาเซลเชียล แต่ยอดเขายังมีน้ำแข็ง ในขณะที่ระยะที่สองคิดถึงป่าสน เขียวๆ ตีนภูเขา และระยะที่สามรอบๆ ตัวเราก็เป็นต้นไม้ที่เพิ่งเริ่มจะผลิดอกกับใบ เป็นอย่างนี้ตลอดการวิ่งครับ มันก็ทำให้จิตใจผ่อนคลายดีทีเดียว

เนื่องจากผมเริ่มวิ่งช้า ไม่พอจำนวนนักวิ่งก็ค่อนข้างน้อง รวมๆ ก็ประมาณ 100 คน (ระยะ Half-marathon Marathon และ 50K) ยังเหงาไม่พอครับจุดแจกนำ้มีทุกๆ 8 กิโลเมตรครับ ฟังไม่ผิดครับ ทุกๆ 8 กิโลเมตร และมีเจ้าหน้าที่คืนคุม 1 คน ยิ่งท้ายๆ เจ้าหน้าที่ก็ไม่อยู่แล้วมีแต่แก้ววางไว้  ดังนั้น ผมจึงเหมือนวิ่งคนเดียว มันเหงามากๆ นะครับตอนวิ่ง มันเป็นชนบท ทางที่คนเดินก็แทบไม่มี ในที่สุดผมก็วิ่งเข้าเส้นชัยไปได้ด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 52 นาที ผมโคดดีใจเลยพูดตรงๆ เหมือนอารมตอนโสดๆ แล้วมีคนมาจีบอย่างนั้นเลยครับ ความเหงาได้หมดสิ้นไปแล้ว อ้อลืมไปตอนวิ่งเสร็จเขาจะแจก Cup Cake ด้วยนะ
(Arlington WA) นี่ก็คือเหรียญ เดาว่าเขาทำมาปีเดียว แต่แจกหลายๆ ปี
ถ้าจะให้แนะนำแบบสรุปๆ งานนี้จึงไม่เหมาะกับงานที่จะเป็น First Marathon อย่างยิ่ง ถ้าใครมา Debut งานนี้รับรองว่าเลิกวิ่งตลอดชาติแน่ๆ แต่ถ้าอยากดูบรรยากาศธรรมชาติ (ขอย้ำว่าธรรมชาติสวยงามมากๆ) และไม่อยากเสียค่าสมัครเยอะ ก็มาเถอะครับ ก็คุ้มกับค่าสมัครนะ
(Arlington WA) โดยส่วนตัว ผมว่า ผมก็วิ่งได้ดีขึ้น แม้จะยังไม่ตามเป้าที่ตั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น