Summary Note
Running event: Cup cake Fun Run 2016
Website: http://www.cupcakeruns.com/
Date: March 20, 2014
Distant: 26.2 Miles
Package: Medal
Cost: $25 + application fee
City: Seattle, WA, USA
Highlight: Cup cake, great views and cheap
Rating: 2/ 5 stars
---
มีคำถามหนึ่งที่ผมมักจะถามตัวเองเสมอเมื่อต้องสมัครวิ่ง ก็คือ ทำไมต้องเสียเงินมาวิ่งทั้งๆ ที่ถนน หรือสวนสาธารณะก็วิ่งได้ สำหรับการเข้าร่วมงาน Cup cake Fun Run ผมเสียสมัครโดยให้เหตุผลกับตัวเองว่า ข้อที่หนึ่ง ผมอยากทดสอบตัวเอง เพราะวิ่งคนเดียว พอเหนื่อยก็มักจะขี้เกียจฝืนวิ่งต่อ (เปลี่ยนมาเดิน) และข้อที่สองผมชอบยรรยากาศงานวิ่ง ที่มีคนเยอะๆ มาวิ่งด้วยกัน คือวิ่งแล้วมันไม่เหงาอ่ะนะ
|
(Arlington WA, Cup Cake Fun run) น่ากินอยู่นะ!! |
ว่าด้วยงาน Cup cake Fun Run สักเล็กน้อย งานนี้จัดมาตั้งแต่ปี 2010 เพื่อฉลองวันเกิดให้กับคุณป้าที่ชื่อว่า Tori แกไม่ได้มีความสำคัญมากหรอกครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า คือแกอยากจัด ในปีแรก มีคนมาร่วมวิ่งกับแก 15 คน ต่อมางานก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ วัตถุประสงค์ของงานก็เปลี่ยนไปเป็นการหาเงินไปบริจาคบ้าง โดยในปีนี้ป้าแกจะนำเงินไปซื้อ Lift Van ให้กับน้องคนหนึ่งที่ชื่อ Abby ครับ
|
(Arlington WA) ขนมแจกเด็กๆ ก็มีนะครับ |
งานวิ่งงานนี้ เอาตรงๆ ผมไม่แทบตั้งความหวังว่าต้องประทับใจ หรืออะไรไว้เลย เนื่องจากค่าสมัครค่อนข้างถูกมาก แค่ $25 หรือ ประมาณ 1,300 บาท คือเทียบกับไทยอาจจะดูแพง แต่เมื่อเทียบกับงานวิ่งงานอื่นๆ ในอเมริกา เช่น LA marathon ก็ปาเข้าไป $200 ดังนั้น งานนี้ก็เหมือนกับมาวิ่งฟรีๆ นั่นแหละ นอกจากค่าสมัครที่เหมือนมาวิ่งฟรี สถานที่จัดงานก็ค่อยข้างเป็นชนบทมากๆ เริ่มต้นจากเมือง Seattle (ขนาดเมืองก็ประมาณหัวหิน) ผมนั่งรถเมขึ้นเหนือมา 2 ชั่วโมงกว่า ผ่านทุ่งนา สวนสตอเบอรี่ (มั้ง) และเจอตัวอาปาก้า สัตว์พื้นเมืองของประเทศเปรู ผมถึงกับอุทาย เห้ย นี่มันประเทศอเมริกานะ
|
(Arlington WA) ลงรถเมล์แล้วต้องเดินต่อไปอีก 20 นาที |
เนื่องจากเมืองค่อนข้างชนบทมากๆ รถเมล์จาก Seattle มีมาถึง (บ้าง) ก็จริง แต่นานๆ มันจะมาสักคัน ยิ่งโดยเฉพาะวันอาทิตย์ รถเมล์แต่ละคันห่างกันคร่าวๆ ก็ประมาณ 1 ชั่วโมง และรถเมล์รอบที่เช้าที่สุดมาถึงตอน 9 โมง นอกจากนี้พอลงรถเมล์แล้วยังต้องเดินต่ออีก 20 นาที ด้วยเหตุนี้ ผมจึงต้องเริ่มวิ่งช้ากว่าคนอื่นๆ 1 ชั่วโมง มันก็เลยทำให้การวิ่งของผมกร่อยไปบ้าง (แต่ผม E-mail แจ้งเขาล่วงหน้าแล้วนะ ^^)
ข้อดีของการวิ่งงานนี้ก็คือเจ้าหน้าที่ สตาฟ ที่จุดเริ่มต้น ค่อนข้าง Friendly มากๆ ครับ เห็นผมมาช้าก็เข้ามาดูแล ไม่พอ จำชื่อภาษาไทยของผมได้ด้วย ซื่งมันค่อนข้างจำยากนะ ถือได้ว่าเป็น First impression เลยแหละครับ พี่ๆ เขายังบอกผมด้วยว่าขากลับไม่ต้องเดินไปป้ายรถเมล์ เดี่่ยวขับรถไปส่ง นอกจากนี้ อาหารการกิน ณ จุดเริ่มต้นก็ถือว่าไม่แย่ครับ มีขนมพัชเสิล แห้งๆ ขนมปัง กับน้ำเปล่าแจก (คือมันก็โอเคร สมกับราคามากๆ)
|
(Arlington WA) (ถ่ายตอนกลับนะครับ) นี่คือจุดปล่อยตัว และเส้นชัย มีแค่นี้แหละครับ |
จากนั้นผมก็เริ่มวิ่งครับ วิวสวยมากๆ ลองจินตนาการภาพออกเป็น 3 ระยะ ระยะไกลๆ คิดถึงภาพภูเขาสูงมากๆ ที่มีหิมะตรงยอด (เทืองเขา Rocky) มันสูงมากจริงๆ นะ เพราะตอนที่วิ่งอุณหภูมิ ประมาณ 15 องศาเซลเชียล แต่ยอดเขายังมีน้ำแข็ง ในขณะที่ระยะที่สองคิดถึงป่าสน เขียวๆ ตีนภูเขา และระยะที่สามรอบๆ ตัวเราก็เป็นต้นไม้ที่เพิ่งเริ่มจะผลิดอกกับใบ เป็นอย่างนี้ตลอดการวิ่งครับ มันก็ทำให้จิตใจผ่อนคลายดีทีเดียว
เนื่องจากผมเริ่มวิ่งช้า ไม่พอจำนวนนักวิ่งก็ค่อนข้างน้อง รวมๆ ก็ประมาณ 100 คน (ระยะ Half-marathon Marathon และ 50K) ยังเหงาไม่พอครับจุดแจกนำ้มีทุกๆ 8 กิโลเมตรครับ ฟังไม่ผิดครับ ทุกๆ 8 กิโลเมตร และมีเจ้าหน้าที่คืนคุม 1 คน ยิ่งท้ายๆ เจ้าหน้าที่ก็ไม่อยู่แล้วมีแต่แก้ววางไว้ ดังนั้น ผมจึงเหมือนวิ่งคนเดียว มันเหงามากๆ นะครับตอนวิ่ง มันเป็นชนบท ทางที่คนเดินก็แทบไม่มี ในที่สุดผมก็วิ่งเข้าเส้นชัยไปได้ด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 52 นาที ผมโคดดีใจเลยพูดตรงๆ เหมือนอารมตอนโสดๆ แล้วมีคนมาจีบอย่างนั้นเลยครับ ความเหงาได้หมดสิ้นไปแล้ว อ้อลืมไปตอนวิ่งเสร็จเขาจะแจก Cup Cake ด้วยนะ
|
(Arlington WA) นี่ก็คือเหรียญ เดาว่าเขาทำมาปีเดียว แต่แจกหลายๆ ปี |
ถ้าจะให้แนะนำแบบสรุปๆ งานนี้จึงไม่เหมาะกับงานที่จะเป็น First Marathon อย่างยิ่ง ถ้าใครมา Debut งานนี้รับรองว่าเลิกวิ่งตลอดชาติแน่ๆ แต่ถ้าอยากดูบรรยากาศธรรมชาติ (ขอย้ำว่าธรรมชาติสวยงามมากๆ) และไม่อยากเสียค่าสมัครเยอะ ก็มาเถอะครับ ก็คุ้มกับค่าสมัครนะ
|
(Arlington WA) โดยส่วนตัว ผมว่า ผมก็วิ่งได้ดีขึ้น แม้จะยังไม่ตามเป้าที่ตั้ง |